นาทีปล้นทอง36ล้าน แก๊งคนร้ายอาวุธครบมือ คาดเผ่นหนีมาเลย์ฯแล้ว
เปิดนาทีปล้นสุดอุกอาจ แก๊งโจรบุกปล้นทองในห้างดังกลางเมือง สุไหงโก-ลก กวาดทองไปกว่า 600 บาท ทะลุ 36ล้าน คาดเผ่นหนีไปมาเลเซียแล้ว
เหตุการณ์ปล้นทองสุไหงโก-ลก โดยเป็นร้านทองในห้างดัง กลางเมืองสุไหงโก-ลก ล่าสุด 6 ต.ค.68 จากการที่เจ้าหน้าที่ประเมินจำนวนทองรูปพรรณที่ถูกปล้นไปประมาณ 600 บาท มูลค่าราว 36 ล้านบาท จากทั้งหมดที่มีอยู่ในร้านราว 800 บาท ซึ่งมีรายงานว่าแก๊งโจรทั้งหมดราว 10คน ใช้เวลาในการก่อเหตุเพียง 10 นาที คาดว่าได้หลบหนีไปฝั่งมาเลเซียแล้ว ซึ่งพบการทำงานแบบมืออาชีพ แบ่ง3ทีม กลุ่มปล้นรถ กลุ่มปล้นทอง และกลุ่มโรยตะปูเรือใบ เปิดทางหนี
โดยจุดเริ่มต้นเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.20 น. ของวันที่ 5 ตุลาคม 2568 ที่บ้านเลขที่ 277 หมู่ 4 ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส กลุ่มคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน แต่งกายในชุดดำ พร้อมอาวุธปืนยาวครบมือ บุกจู่โจมเข้าปล้นทรัพย์ถึงในบ้านพักของประชาชน โดยกลุ่มคนร้ายได้ใช้ปืนข่มขู่เจ้าของบ้าน ก่อนลงมือปล้นรถกระบะไปถึง 2 คัน ประกอบด้วย รถกระบะ Isuzu D-Max สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กค 6521 นราธิวาส และ รถกระบะ TOYOTA VIGO สีเทา หมายเลขทะเบียน บท 7187 ปัตตานี
ล่าสุด 6 ต.ค.68 มีรายงานว่า พบกระบะ 2 คันต้องสงสัยแล้ว โดย เจ้าหน้าที่ร้อย.ปชด.ที่ 4 ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ในพื้นที่บ้านตอออ หมู่ 1 ต.กายูคละ อ.แว้ง จ.นราธิวาส จึงได้ปิดกั้นเส้นทางเพื่อความปลอดภัย และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แว้ง พร้อมชุด EOD (เก็บกู้วัตถุระเบิด) และชุดเก็บพยานหลักฐานเข้าตรวจสอบ
เบื้องต้นคาดว่า กลุ่มคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 10 คน แยกออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มปล้นรถ, กลุ่มปล้นทอง และกลุ่มโรยตะปูเรือใบพร้อมวางระเบิดเพื่อสกัดการติดตามของเจ้าหน้าที่ โดยหลังเกิดเหตุคนร้ายคาดว่าหลบหนีผ่านเส้นทางในพื้นที่ตำบลสากอ อำเภอแว้ง มุ่งหน้าออกช่องทางธรรมชาติข้ามไปยังประเทศมาเลเซีย
โดยเช้าวันนี้ (6 ตุลาคม 2568) หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) พร้อมชุดพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยและหลักฐานภายในจุดเกิดเหตุ เพื่อเก็บดีเอ็นเอและลายนิ้วมือแฝงที่อาจหลงเหลืออยู่ รวมถึงสอบสวนพนักงานรักษาความปลอดภัยและพนักงานร้านทองอย่างละเอียด
เบื้องต้นประเมินมูลค่าทองรูปพรรณที่ถูกปล้นไปประมาณ 600 บาท จากทั้งหมดราว 800 บาท ขณะนี้ฝ่ายความมั่นคงได้สั่งการให้ทุกหน่วยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งจุดตรวจและจุดสกัดเข้มทุกเส้นทาง พร้อมประสานความร่วมมือกับฝ่ายความมั่นคงของประเทศเพื่อนบ้านเพื่อปิดช่องทางหลบหนี
EmoticonEmoticon