สาวสุดกลั้น คลอดลูกแฝดชายบนรถ เห็นทะเบียนขนลุกตรงเลขมงคล



เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สุดประทับใจที่ถูกแชร์ต่ออย่างรวดเร็วในโลกออนไลน์ เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก Kridsakorn Buaphet เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ได้โพสต์เล่าเหตุการณ์สุดระทึกปนอบอุ่นใจ หลังหญิงตั้งครรภ์ใกล้คลอดรายหนึ่งให้กำเนิด “ลูกแฝดชาย” บนรถระหว่างทางไปโรงพยาบาล เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา


โดยเจ้าหน้าที่ผู้โพสต์ระบุข้อความเล่ารายละเอียดว่า “คลอดเด็กแฝดบนรถ น้องรีบเกินลูกน้อนผู้ชายแพ็กคู่ น้องแอร์พอร์ต คลอดเวลา 21.35 น. ท่าหัว น้ำหนัก 2,165 กรัม



น้องโลตัส คลอดเวลา 21.40 น. ท่าก้น น้ำหนัก 1,740 กรัม ขอให้เด็ก ๆ แข็งแรงนะลูก ร้องดีร้องดังทั้งคู่ พี่ ๆ ค่อยโล่งใจหน่อย”#พยาบาลเวรบ่ายห้องคลอด

พร้อมแนบรายละเอียดการปฏิบัติหน้าที่ของทีมแพทย์และพยาบาลที่ช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง ระบุว่า ขณะรับเคสหญิงตั้งครรภ์รายนี้ (G4P3 GA33 สัปดาห์ แฝดคู่) ปากมดลูกเปิดถึง 9 เซนติเมตร และระหว่างส่งตัวไปโรงพยาบาล เด็กคนแรกได้คลอดออกมาในท่าก้น ก่อนที่อีกคนจะตามออกมาในเวลาห่างกันเพียง 5 นาที โดยทั้งคู่ร้องเสียงดังดี ถือเป็นสัญญาณของความแข็งแรง


หลังโพสต์ถูกเผยแพร่ ชาวเน็ตต่างร่วมแสดงความยินดีและชื่นชมการทำงานของทีมแพทย์และพยาบาลที่ช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที ขณะที่ชาวโซเชียลสายเสี่ยงโชคก็ไม่พลาดถามถึง ทะเบียนรถพยาบาล “9343” ที่กลายเป็นเลขเด็ดประจำเหตุการณ์คลอดแฝดสุดน่ารักในครั้งนี้




อาลัย พลเมืองดี วัย 22 ปี เสียชีวิตขณะช่วยคนเจ็บ เผยสาเหตุสุดเศร้า



วันที่ 29 ตุลาคม 2568 เกิดเหตุอุบัติเหตุซ้ำซ้อนสุดสลดบนถนนมอเตอร์เวย์สายกรุงเทพฯ-บ้านฉาง เวลาประมาณ 02.30 น. ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 5 ราย และเสียชีวิต 3 ราย หนึ่งในนั้นคือ น.ส.จิรวดี ท่อนทองแดง อายุ 22 ปี พลเมืองดีผู้หยุดรถลงไปให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ ก่อนจะถูกรถอีกคันพุ่งชนจนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ


อาสากู้ภัยสว่างรัตนตรัย สระบุรี ได้ออกมาแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต พร้อมเผยว่า น.ส.จิรวดี เป็นภรรยาของ นายวันเฉลิม อันชูนี อาสากู้ภัยในสังกัดเดียวกัน ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์เดียวกัน ขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลชลบุรี โดยทางหน่วยงานได้ ประชาสัมพันธ์ขอรับบริจาคเลือดด่วน เนื่องจากเลือดที่ต้องใช้ในการผ่าตัดมีไม่เพียงพอ

รายงานระบุว่า ก่อนเกิดเหตุ ทั้งคู่กำลังเดินทางไปฉลองวันเกิด เมื่อพบเหตุรถชนบนเส้นทาง จึงหยุดรถลงไปช่วยเหลือด้วยจิตอาสา แต่กลับเกิดเหตุซ้ำซ้อนขึ้น ทำให้ น.ส.จิรวดี เสียชีวิตทันทีในจุดเกิดเหตุ ส่วน นายวันเฉลิม ถูกชนได้รับบาดเจ็บสาหัส


ภายหลังเหตุการณ์ ทางญาติได้นำร่างของ น.ส.จิรวดี ท่อนทองแดง กลับไปประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลที่จังหวัดศรีสะเกษ ท่ามกลางความอาลัยของครอบครัว เพื่อนฝูง และเจ้าหน้าที่กู้ภัยทั่วประเทศ


ขอสดุดีความดี ความเสียสละ และจิตอาสาของน้องจิรวดี ที่จากไปอย่างมีเกียรติ ขอให้ดวงวิญญาณของน้องไปสู่สุคติในภพภูมิที่ดี

สลด! กระบะชนประสานงากันสนั่น คนขับดับคาที่ 1 บาดเจ็บอีก 2 ราย



วันที่ 1 ต.ค. 2568 ตำรวจ สภ.เชียงคำ จ.พะเยา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุ รถกระบะชนประสานงากันบริเวณถนนบ้านถ้ำกาญจนา หมู่ 8 ต.แม่ลาว อ.เชียงคำ จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสยามรวมใจพะเยา สำนักงานใหญ่เชียงคำโดยที่เกิดเหตุพบรถกระบะ สีดำ สภาพด้านหน้าพังยับเยินทั้งคัน และรถกระบะ สีขาว สภาพด้านหน้าพังเสียหายเช่นกัน จากการตรวจสอบพบผู้บาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ชายอายุ 41 ปี คนขับรถกระบะสีขาว มีอาการซึมและปวดหน้าอก และหญิง อายุ 54 ปี ผู้โดยสารรถกระบะสีดำ มีบาดแผลฉีกขาดบริเวณศีรษะ และปวดไหล่ซ้ายนอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย เป็นชาย อายุ 60 ปี คนขับรถกระบะสีดำ เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งนำผู้บาดเจ็บส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลเชียงคำ ขณะที่ร่างผู้เสียชีวิตถูกนำส่งเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนเบื้องต้นทราบว่า รถกระบะสีดำวิ่งมาจาก ต.ผาช้างน้อย อ.ปง ส่วนรถกระบะสีขาวขับมาจากตัว อ.เชียงคำ เมื่อถึงบริเวณบ้านถ้ำกาญจนา หมู่ 8 ได้ชนประสานงากันอย่างแรง จนผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในครั้งนี้ โดยตำรวจจะเร่งเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน และหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุต่อไป




ข่าวด่วน!! ข่าวเศร้า ยืนยันการเสียชีวิตของ… ดูเพิ่มเติม!!



เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. ของวันนี้ 29 ต.ค. 68 ได้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันหลายคัน ส่งผลให้อดีตสารวัตรกำนันสาวเสียชีวิตคาที่ 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 2 ราย บนถนนพหลโยธิน ขาขึ้น บริเวณก่อนถึงวัดต้นมื่น เขตบ้านปันใต้ หมู่ 5 ต.ปงเตา อ.งาว จ.ลำปาง​ทางด้าน​เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.งาว พร้อมด้วยแพทย์นิติเวช รพ.งาว และสมาคมกู้ภัยอำเภองาว ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ชนกันรวม 3 คัน
คันแรกเป็น​รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อนิสสัน สีขาว ทะเบียน จ.ลำปาง สภาพพังเสียหายทั้งคัน พุ่งชนเข้ากับศาลาพักริมทาง พบร่าง นางสมจิตร โยธิน อายุ 47 ปี ที่อยู่บ้านปันเหนือ หมู่ 9 ต.ปงเตา อ.งาว จ.ลำปาง ซึ่งเป็น อดีตสารวัตรกำนัน ต.ปงเตา กระเด็นออกมาจากรถเสียชีวิตคาที่
คันที่สอง ​รถยนต์แวน โตโยต้า อแวนซ่า สีดำ ทะเบียน จ.ลำปาง จอดอยู่กลางถนน สภาพท้ายรถยุบเสียหาย
​รถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ ทะเบียน จ.ลำปาง: พุ่งเข้าไปริมทาง บริเวณหน้ากระโปรงรถพังเสียหาย โดยคนขับและผู้โดยสารรวม 2 คน ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย





จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า นางสมจิตร ผู้เสียชีวิต ได้ขับรถยนต์เก๋งสีขาวมาตามเส้นทางและเกิดเสียหลัก พุ่งชนท้ายรถยนต์โตโยต้า อแวนซ่า ที่จอดอยู่ข้างทางอย่างจัง หลังจากนั้น รถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ ที่ขับตามมาได้พุ่ง ชนอัดท้ายรถเก๋งของผู้เสียชีวิตซ้ำอีกครั้ง ส่งผลให้ร่างของนางสมจิตร กระเด็นออกจากตัวรถเสียชีวิต ก่อนที่รถเก๋งจะไถลไปชนอัดเข้ากับศาลาพักริมทาง


​​ทางด้านร้อยเวรสอบสวน สภ.งาว จะดำเนินการสอบปากคำคู่กรณีและพยานที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างละเอียด เพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดอุบัติเหตุ และรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป



สภามีสะเทือน! กัน จอมพลัง งัดหลักฐานเด็ด ย้ำชัด ทำเพื่อทหารชั้นผู้น้อย



วันที่ 30 ตุลาคม 2568 มีการจัดประชุมรัฐสภาในส่วนของคณะกรรมาธิการ โดยได้เชิญ กัน จอมพลัง เข้าร่วมประชุม เพื่อขอความอนุเคราะห์ในการให้เอกสารประกอบการตรวจสอบตามนโยบายเท่านั้น ช่วงท้ายของการประชุม กัน จอมพลัง ได้แสดงหลักฐานที่ทหารส่งมาขอความอนุเคราะห์เกี่ยวกับถนนและโน้ตบุ๊ก


กัน จอมพลัง กล่าวว่ารายการอื่น ๆ ที่ทหารร้องขอ เช่น คอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊ก สำหรับใช้คำนวณการกดกระสุนใหญ่ เป็นสิ่งที่ทหารชั้นผู้น้อยต้องการอย่างเร่งด่วน โดยเชื่อว่ากองทัพมีงบประมาณอยู่แล้ว แต่ในเรื่องของความรวดเร็วนั้นไม่แน่ใจว่าจะดำเนินการได้ทันเพียงใด ซึ่งจากสภาพที่เห็นก็เข้าใจได้ว่า หากมูลนิธิสามารถช่วยจัดหาได้ก็พร้อมจะดำเนินการเร่งด่วนเพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย


ส่วนกรณีเรื่องถนน ทหารได้ส่งภาพถนนเดิมมาให้ดูว่าสภาพเป็นอย่างไร หากถนนชำรุดและไม่มีการเข้าไปช่วยเหลือ การเดินทางก็จะลำบาก โดยเฉพาะผู้ที่บาดเจ็บจะเข้า-ออกได้ยาก กัน จอมพลัง กล่าวว่าการดำเนินการเพียงสองวันก็สามารถทำได้แล้ว จึงเสนอว่า งั้นร่วมกันทำ โดยให้ทางมูลนิธิฯ สนับสนุน เพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกัน


ในส่วนของเอกสาร กัน จอมพลัง กล่าวว่าหากทหารชั้นผู้น้อยหรือเด็กตัวเล็ก ๆ ไม่ได้รับผลกระทบ ก็รู้สึกยินดีและพร้อมช่วยเหลือให้ทหารชั้นผู้น้อยสามารถดำรงชีวิตได้อย่างเหมาะสม ทั้งนี้ ยังได้กล่าวถึงเรื่องห้องน้ำว่าอยากเชิญคณะกรรมาธิการการทหารลงพื้นที่ดูหน้างานร่วมกัน เพราะไม่สามารถทำได้ทั้งหมดด้วยตนเอง และอยากให้คณะกรรมาธิการเห็นปัญหาจริงเพื่อร่วมกันหาทางแก้ไข


สุดท้าย กัน จอมพลัง กล่าวถึงหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นทพ.) ว่าเป็นหน่วยงานที่มีประโยชน์และทำงานจำนวนมาก พร้อมเชื่อว่าหากทุกฝ่ายร่วมแรงร่วมใจกันในยามเกิดปัญหา ประชาชนจำนวนมากก็ยินดีที่จะช่วยเหลือ และไม่อยากให้มองว่าการที่ประชาชนเข้ามาช่วยกันเป็นสิ่งไม่ถูกต้องตามระเบียบ แต่ควรมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมแรงร่วมใจเพื่อส่วนรวม

บิลลี่ โอแกน โพสต์ล่าสุด คนไลก์นับหมื่น บุ๋ม ปนัดดา ยังคอมเมนต์



ถึงจะโพสต์เฟซบุ๊กบ่อยๆ แต่เชื่อเลยว่า น้อยครั้งที่ บิลลี่ โอแกน ศิลปินรุ่นใหญ่ผู้มากความสามารถ จะเผยโฉมหน้าหล่อๆ ในปัจจุบันให้ได้เห็น ซึ่งทุกวันนี้ บิลลี่ โอแกน ยังคงสร้างรอยยิ้มและแรงบันดาลใจให้แฟนๆ เสมอ ล่าสุดเจ้าตัวได้อัปเดตภาพผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Billy Ogan” ขณะเข้าร่วมกิจกรรม จิตอาสาพระราชทาน ปฏิบัติหน้าที่บริเวณท้องสนามหลวง แจกอาหารและเครื่องดื่มพระราชทานให้แก่ประชาชน ข้าราชการ ทหาร และตำรวจ ที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพสมเด็จพระพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตาลัย ภายในพระบรมมหาราชวัง


โดย บิลลี่ โอแกน ได้โพสต์ข้อความว่า “เช้าวันนี้จิตอาสาพระราชทานเข้าปฏิบัติหน้าที่บริเวณท้องสนามหลวง เพื่อแจกอาหารและเครื่องดื่มพระราชทานให้กับพี่น้องประชาชนข้าราชการทหารตำรวจที่เดินทางมาร่วมสักการะพระบรมศพสมเด็จพระพันปีหลวง ณพระที่นั่งดุสิตาลัย พระบรมมหาราชวัง โดยทำการแจกอาหารและเครื่องดื่มอยู่บริเวณจุดคัดกรอง ณ ท้องสนามหลวง”


ขณะที่ บุ๋ม ปนัดดา ได้เข้ามาคอมเมนต์ทันทีว่า “ดีใจที่ได้เจอพี่บิลลี่อีกครั้งค่ะ ศิลปินท่านแรกที่ได้วิ่งไปขอลายเซ็นค่ะ ยังประทับใจจนถึงทุกวันนี้ค่ะ” แน่นอนว่า พี่บิลลี่ ไม่รอช้า คอมเมนต์ตอบว่า “ขอบคุณครับพี่บุ๋มผมติดตามและเป็นกำลังใจให้เสมอในการทำความดีและเสียสละเพื่อผู้อื่น”


ภาพของบิลลี่ในลุคเรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยรอยยิ้ม ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตอย่างรวดเร็ว แฟนคลับรุ่นเก่าต่างเข้ามาคอมเมนต์ด้วยความประทับใจ เช่น “ดีใจที่ได้เจอพี่บิลลี่อีกครั้ง ศิลปินท่านแรกที่ได้วิ่งไปขอลายเซ็น ยังจำได้จนถึงทุกวันนี้” ขณะที่อีกคอมเมนต์หนึ่งระบุว่า “ดีใจที่เห็นพี่ยังมั่นคงในศรัทธา เรียบง่าย และคงเส้นคงวา ขอให้สุขภาพดีไปตลอดครับ” ส่วนบางคนก็เผยความเสียดายว่า “ไปมาวันนี้แต่ไม่ได้เจอพี่บิลลี่เลยค่ะ”


บทบาทของบิลลี่ โอแกน ในฐานะจิตอาสาครั้งนี้ ทำให้หลายคนชื่นชมในความมีน้ำใจและจิตอาสาอย่างแท้จริง โพสต์ดังกล่าวเต็มไปด้วยคอมเมนต์อนุโมทนาและคำชื่นชมจากแฟน ๆ ที่เติบโตมากับเพลงของเขา สะท้อนให้เห็นถึงพลังบวกและความอบอุ่นหัวใจที่บิลลี่ส่งต่อให้สังคมอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปี ความเท่และจิตใจดีของเขาก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงเลยจริง ๆ



ไขข้อสงสัย! คนละครึ่งพลัส ใช้สิทธิกับร้าน CJ More ได้ไหม



เริ่มแล้วสำหรับการใช้สิทธิคนละครึ่งพลัส ผ่านแอปฯ เป๋าตัง กับร้านค้าที่ร่วมโครงการคนละครึ่ง 2568 โดยรัฐบาลจะร่วมสนับสนุนกับประชาชน 50 : 50 หรือสุงสุดวันละไม่เกิน 200 บาทต่อคืน ซึ่งแค่วันแรก (29 ต.ค. 2568) ก็ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากร้านค้าและประชาชนผู้มีสิทธิ มีการใช้-จ่าย สะพัดเลยทีเดียว




อย่างไรก็ตาม สำหรับบางคนที่ชื่นชอบบริการของร้านซีเจ มอร์ CJ More หลายคนสงสัยว่า สามารถใช้สิทธิคนละครึ่งพลัสกับร้าน ได้ไหม คำตอบคือ ไม่สามารถใช้สิทธิคนละครึ่งพลัส กับร้าน ซีเจ มอร์ CJ More ได้ เนื่องจากโครงการคนละครึ่งพลัสมีเงื่อนไขสนับสนุนร้านค้าขนาดเล็ก และ SME นั่นเองครับ



ด่วน!! ราชกิจจาฯโปรดเกล้าฯ ประกาศด่วน. ส่งตัวทักษิณ



แม้ว่าจะเข้าเรือนจำไปแล้วแต่สังคมก็ยังให้ความสนใจไม่น้อยเลยค่ะ สำหรับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ก่อนหน้านี้ ศาลฎีกาฯ สั่งบังคับโทษจำคุก 1 ปี ในเรือนจำ คดีชั้น 14 โดยในตอนนี้ ทักษิณ อยู่ในเรือนจำกลางคลองเปรม


แล้วล่าสุดก็มีเรื่องการส่งตัว ทักษิณ ไปเอกซเรย์ปอด ซึ่งประชาชนหลายคนก็เกิดข้อข้องใจไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ ถึงเรื่องนี้
จนล่าสุดวันนี้ (21 ตุลาคม 2568 ) นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงการควบคุมตัว นายทักษิณ หลังเข้ามาอยู่ในเรือนจำเป็นวันที่ 8


ว่าวานนี้ (21 ตุลาคม 2568 ) เรือนจำได้ส่งตัว นายทักษิณ ไปเอกซเรย์ปอด ซึ่งเป็นไปตามระเบียบของเรือนจำอยู่แล้วที่ต้องเอกซเรย์ผู้ต้องขังทุกคน


โดยมีผู้ต้องขังอื่นที่ต้องเอกซเรย์ปอดประมาณ 100 คน หลังจากนี้แพทย์จะนัดฟังผลและตรวจสุขภาพอีกครั้ง ส่วนวันนี้ นายทักษิณ ทำกิจวัตรประจำวันปกติ อ่านหนังสือ ดูทีวีเหมือนเดิม


รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการเยี่ยมญาติ ตามระเบียบของเรือนจำญาติจะสามารถเข้าเยี่ยมได้ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ คือ ทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดี


ส่วนทนายความสามารถเข้าเยี่ยมได้ทุกวัน โดยรายชื่อผู้เข้าเยี่ยม 10 คน มีเปลี่ยนแปลงนิดหน่อย


ส่วนผู้ที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อสามารถเข้าเยี่ยมได้เช่นกัน แต่ขึ้นอยู่กับอำนาจของผู้บัญชาการเรือนจำและต้องได้รับความยินยอมจากผู้ต้องขัง กรมราชทัณฑ์ ก็ออกมาชี้แจงชัดเจนเลยทีเดียวค่ะ



สลดศพที่6 ด.ช.8ขวบเหยื่อ กระบะชนเก๋งดับยกครัว สามีเศร้า ทำใจไม่ได้



วันที่ 29 ส.ค.2568ขวบเหยื่อ กระบะพุ่งชนเก๋ง ดับยกครัว พ่อเศร้า ทำใจไม่ได้ สูญเสียภรรยา ลูก และหลาน ด้าน ตำรวจเจาะเลือดศพคนขับ 2 ฝ่ายตรวจ


จากกรณี นายคงคา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี ขับรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า ชนประสานงารถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ ในพื้นที่ อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี เสียชีวิต จนรถเก๋งตกลงไปหงายท้องล้อชี้ฟ้าไหล่ถนนที่มีความสูงเกือบ 10 เมตร เป็นเหตุให้ นางยุวดี อายุ 64 ปี ข้าราชการครูบำนาญ, น.ส.นันทภา อายุ 36 ปี ครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง, น.ส.สุจิตตรา อายุ 32 ปี แพทย์แผนไทยประตำโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง และ เด็กหญิงวัย 6 ขวบ เสียชีวิต ส่วนเด็กชายวัย 8 ขวบ บาดเจ็บสาหัส จากเหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิตรวม 5 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย



ล่าสุดวันที่ 05/05/68ที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ญาติของครอบครัวนางยุวดีที่ประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตยกคัน เดินทางมารับร่างผู้เสียชีวิต เพื่อนำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดบ้านสมสะอาด ต.สมสะอาด อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ส่วนฝ่ายรถกระบะคู่กรณี ยังไม่มีใครมาติดต่อ


ทั้งนี้ ได้รับรายงานด้วยว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เด็กชายวัย 8 ขวบ ที่บาดเจ็บสาหัสได้เสียชีวิตแล้ว หลังเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ทำให้ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวรวมแล้ว 6 ราย อ่านข่าว : สลดดับ 5 ศพ! เก๋งประสานงาปิกอัพ หมอ-ครู-ลูก รอดแค่คนเดียว แต่ยังโคม่า

จากการสอบถาม ร.ต.สมหมาย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี สามีและพ่อของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน เพราะช่วงก่อนเกิดเหตุ ลูกและหลาน 5 คนยังอยู่กันพร้อมหน้าที่บ้าน ช่วงบ่ายจึงชวนกันออกจากบ้านเพื่อไปซื้อฝ้ามาติดบ้านของ น.ส.นันทภา ที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จในบริเวณบ้านเดียวกัน กระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ตนเสียภรรยา ลูกสาว และหลานทั้ง 2 คนต้องเสียชีวิต ส่วนน.ส.สุจิตตรามีสามีแล้ว แต่ยังไม่มีลูก


ร.ต.สมหมาย กล่าวต่อว่า จึงอยากฝากถึงคนที่จะขับรถว่า เมาไม่ควรขับ เพราะไปทำความเสียหายให้กับคนครอบครัวอื่น แต่เดิมตนอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ มีบ้านอยู่ในบริเวณเดียวกันทั้งหมด 8 คน คือ ตนและภรรยา ลูกสาว ลูกเขย และหลานทั้ง 2 คน ตอนนี้ยังไม่เจอฝ่ายคู่กรณี และยังไม่ต้องการคุยอะไร ขอจัดการงานศพให้ภรรยา ลูก และหลานก่อน ซึ่งจะตั้งศพไว้ที่หมู่บ้านรอญาติพี่น้องต่างจังหวัดกลับมาพร้อมหน้ากันจึงจะทำการฌาปนกิจ…



ด้าน พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.เดชอุดม กล่าวว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถกระบะที่มีนายคงคาทำงานอยู่ในสหกรณ์แห่งหนึ่งของอำเภอ ขับมาคนเดียว ก่อนจะเสียหลักข้ามเลนเข้าไปชนรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ ซึ่งคาดว่าเกิดจากรถกระบะหลับใน


พ.ต.อ.อโณทัย กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ได้ขอให้แพทย์ชันสูตรศพเจาะเลือดหาปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดทั้งของนายคงคา คนขับรถกระบะ และ น.ส.สุจิตรา คนขับรถเก๋ง เพื่อให้สิ้นสงสัยในเรื่องอื่น ๆ จากนั้น เมื่อได้หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ครบถ้วน จึงจะแจ้งข้อหาฝ่ายผิดที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ แต่เบื้องต้นชัดเจนว่าเกิดจากรถกระบะข้ามเลนไปชนรถเก๋ง

ชัดเจน! เจ้าของยาดมหงส์ไทย ออกโรงเเจงเอง หลัง อย.พบปนเปื้อนจุลินทรีย์



จากกรณีเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์บนโซเชียลอย่างหนัก หลังมีรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ระบุว่า ตรวจพบเชื้อจุลินทรีย์ปนเปื้อนเกินมาตรฐาน


ในผลิตภัณฑ์สมุนไพรบางล็อตของบริษัท สมุนไพรไทย หงส์ไทย จำกัด ส่งผลให้ผู้บริโภคที่ใช้อยู่เกิดความไม่สบายใจ และจับตาความคืบหน้าของเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด


ล่าสุด คุณธีระพงศ์ ระบือธรรม ผู้ก่อตั้ง บริษัท สมุนไพรไทย หงส์ไทย จำกัด ได้ออกมาเคลื่อนไหว ด้วยการโพสต์รูปภาพพร้อมข้อความ ผ่านเพจเฟซบุ๊ก บริษัทสมุนไพรไทย



หงส์ไทย จำกัด – เพจสำนักงานใหญ่ โดยระบุว่า เราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของลูกค้าเป็นอันดับหนึ่ง และพร้อมรับผิดชอบต่อปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่


ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก บริษัทสมุนไพรไทย หงส์ไทย จำกัด – เพจสำนักงานใหญ่

ถ้าผู้บริโภคใช้ผลิตภัณฑ์หงส์ไทยไม่ว่าจะเป็นแบบใด แล้วพิสูจน์ได้ว่าผลิตภัณฑ์เป็นสาเหตุความเสียหายต่อผู้บริโภค บริษัทฯ ยินดีรับผิดชอบทุกกรณี

ช็อกวงการ! อัจฉริยะ เปิดฉากแฉคดีฉาว นักการเมือง ช. ส.ส.ภาคใต้ พัวพันเว็บพนัน



วันที่ 29 ตุลาคม 2568 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีที่เคยร้องทุกข์กล่าวโทษ นักการเมือง ช. นักการเมืองฝั่งรัฐบาลชื่อดังในพื้นที่ภาคใต้ ว่ามีการรับเงินจากเว็บพนันออนไลน์มูลค่านับร้อยล้านบาทจากฝั่งประเทศกัมพูชา พร้อมทั้งเรียกร้องให้เปิดเผยเบื้องหลังตำรวจที่มีส่วนช่วยเหลือในการนำสำนวนคดีไปซ่อน

นายอัจฉริยะกล่าวว่า กรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน เคยออกมาเปิดเผยรายชื่อ 7 นักการเมืองที่เกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์และเว็บพนันออนไลน์ ตนจึงขออาสาออกมาเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดและพร้อมรับผิดชอบเพียงผู้เดียวหากมีการฟ้องร้องเกิดขึ้น


สำหรับนักการเมือง ช. นายอัจฉริยะยืนยันว่าไม่ใช่ นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แต่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่จังหวัดสงขลา โดยเส้นทางการเงินชี้ชัดและไม่สามารถปฏิเสธได้ จากแผนผังจะเห็นว่านักการเมือง ช. มีความเชื่อมโยงกับบัญชีม้าที่เกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์และเว็บพนันออนไลน์ เส้นทางเงินไหลเข้าสู่นักการเมือง ช. และบุตรชายของนักการเมืองรายนี้ซึ่งเคยก่อเหตุทำร้ายเจ้าหน้าที่บริเวณหน่วยเลือกตั้ง


นอกจากนี้ ยังมีเจ้าของเว็บพนันรายใหญ่ในภาคใต้และนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ของประเทศที่อยู่ในพื้นที่เดียวกัน โดยเส้นทางการเงินเชื่อมโยงทั้งจากยาเสพติดและเว็บพนันออนไลน์ไปยังนักการเมืองสองรายจากพรรคการเมืองชื่อดัง รวมถึงนักการเมือง ช. นายอัจฉริยะตั้งคำถามถึงความเหมาะสมที่บุคคลเหล่านี้จะยังคงดำรงตำแหน่ง ส.ส. และคณะกรรมาธิการในรัฐบาลชุดนี้ต่อไป

นายอัจฉริยะกล่าวต่อว่า คดีของนักการเมือง ช. เคยถูกตำรวจชุด PCT 4 ภายใต้การกำกับของ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ในขณะดำรงตำแหน่งหัวหน้าชุดปฏิบัติการ PCT ร่วมกับตำรวจไซเบอร์ ออกหมายจับในข้อหาเป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ แต่คดีหลุดไปที่จังหวัดสงขลา เนื่องจากมีลูกน้องของ พล.ต.ท.ไตรรงค์ กลับคำให้การในชั้นสอบสวน

ทั้งนี้ นายอัจฉริยะได้แสดงแผนผังการรับโอนเงินจากเจ้าของเว็บพนันและบุคคลที่เคยถูกจับในคดีเว็บพนันและคดีของดีเอสไอ พบว่ามีการโอนเงินไปยังนักการเมือง ช. รวมกว่า 72 ล้านบาท โดยคดีนี้เคยถูกร้องต่อดีเอสไอในปี 2567 ซึ่งดีเอสไอได้ส่งหนังสือคดีไปยังศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) แต่กลับไม่มีการดำเนินคดีและมีการซ่อนสำนวน ทั้งที่มีหลักฐานเส้นทางการเงินชัดเจน

นายอัจฉริยะยืนยันว่าไม่เกรงกลัวต่อการถูกฟ้องร้องจากนักการเมือง ช. และการมายื่นหนังสือที่กระทรวงยุติธรรมในครั้งนี้ไม่ได้ร้องขอทีมคุ้มครองพยาน เนื่องจากตนไม่เคยกลัวตาย พร้อมประกาศว่าหากถูกข่มขู่มากเท่าใดก็จะยิ่งเปิดเผยข้อมูลมากขึ้นเท่านั้น