โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง “เสธเบิร์ด” เป็น “พลโท” ภรรยาโพสต์สุดปลื้ม



จากกรณีที่มีรายงานว่า “เสธเบิร์ด” หรือที่ทุกคนรูัจักในชื่อ “ผู้พันเบิร์ด” ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็น “พลโท วันชนะ สวัสดี” ทางด้านภรรยา “ปาม วริญญา” ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวโพสต์ภาพครอบครัว พร้อมแสดงความยินดี

โดยทางด้าน ภรรยา “เสธเบิร์ด” เคลื่อนไหวผ่านทางอินสตาแกรม @palmvarinya ระบุว่า

ต่อมา พลโท วันชนะ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Wanchana Sawasdee ระบุว่า…

ขอพระบารมีสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช โดยเฉพาะสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และดวงวิญญาณบรรพบุรุษ ได้โปรดดลบันดาลให้ไทยคงความเป็นไทยหยัดยืนในเอกราชและอธิปไตยตราบชั่วฟ้าดินมลาย

ให้คนไทยมีพลังแรงกายแรงใจฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ไปได้ อย่างสมบูรณ์

1 ต.ค. 68

ส่องเลข นายกฯอนุทิน หลังขับเครื่องบินส่วนตัวทำภารกิจหัวใจติดปีก



เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆที่หลายคนชื่นชมค่ะ สำหรับเมื่อวาน (30ก.ย.68) ที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางออกจากอาคารรัฐสภาไปยัง Private Jet Terminal

โดยนายกรัฐมนตรีขับเครื่องบินส่วนตัว พร้อมทีมแพทย์ นำโดย อ.นพ.พัชร อ่องจริต หัวหน้าสาขาศัลยศาสตร์หัวใจและทรวงอก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และ อ.นพ.ธรรศ ตั้งกิจวนิชกุล แพทย์ประจำบ้านสาขาศัลยศาสตร์ทรวงอก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เดินทางไปยังจังหวัดเลย ในภารกิจหัวใจติดปีก


ซึ่งเป็นภารกิจด่วน และถือเป็นภารกิจที่ นายกฯอนุทิน ทำมาตั้งแต่ปี 2557 ทำภารกิจนี้ไปแล้วกว่า 80 เที่ยวบิน ช่วยชีวิตผู้ป่วยไปมากกว่า 200 ชีวิต และวันนี้เป็นการปฏิบัติภารกิจหัวใจติดปีกครั้งแรกในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี


เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางถึงสนามบินเลย เปิดเผยว่า เพิ่งได้รับการติดต่อจากหมอเมื่อเช้า ว่ามีผู้บริจาคอวัยวะหัวใจ ซึ่งขณะนั้นไม่มีเครื่องบินพาณิชย์ จึงต้องขับเครื่องบินส่วนตัวมาเองเพื่อรีบมารับอวัยวะผู้บริจาค


แต่วันนี้เจอสภาพอากาศไม่ดี คิดว่าคงใช้เวลาไม่นาน บ่ายโมงก็กลับไปประชุมรัฐสภาต่อ โดยผู้บริจาคเป็นชายอายุ 19 ปี บริจาคดวงตา 2 ข้าง ตับ 1 ข้าง ไต 2 ข้าง และหัวใจ 1 ดวง


จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้พูดคุยกับครอบครัวผู้บริจาคอวัยวะ พร้อมบอกว่า “เป็นการทำบุญครั้งใหญ่ 6 ชั่วโมงหัวใจกลับไปเต้นใหม่เหมือนเดิม เดี๋ยวรอให้เขาแข็งแรง ให้คุณหมอใส่หัวใจดู”


พร้อมสวมกอดพ่อและแม่ของครอบครัวผู้บริจาค ก่อนเดินทักทายทีมแพทย์และพยาบาลของโรงพยาบาล และเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร


แน่นอนว่าสิ่งที่สะดุดตาใครหลายๆคนในครั้งนี้ก็คือ เลขที่ติดอยู่หางใบพัด ซึ่งมีเลข 930 ติดอยู่

ใครอยากลองนำไปลุ้นรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลในงวดวันที่ 1 ตุลาคม 2568 ก็ลองดูได้เลย


เลขเครื่องบินส่วนตัวนายกฯอนุทิน ในภารกิจหัวใจติดปีก จ.เลย – กทม.



เมื่อเวลา 16:00 น. วันที่ 30 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี นายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ขับเครื่องบินส่วนตัวพาคณะแพทย์เดินทางไปจังหวัดเลย เพื่อภารกิจด่วนในการผ่าตัดนำอวัยวะจากผู้เสียชีวิตที่ครอบครัวบริจาคไว้

โดยทีมแพทย์ที่ร่วมเดินทาง ประกอบด้วย

อ.นพ.พัชร อ่องจริต – ศัลยแพทย์ทรวงอกและหัวใจ ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อ.นพ.ธรรศ ตั้งกิจวนิชกุล – แพทย์ประจำบ้านสาขาศัลยศาสตร์ทรวงอก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ภารกิจดังกล่าวเป็นการนำอวัยวะที่ยังใช้งานได้ ไปช่วยชีวิตผู้ป่วยวิกฤต ล่าสุดรายงานว่า การผ่าตัดเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ผู้บริจาคเป็นชายอายุ 19 ปี มอบอวัยวะหลายส่วน ได้แก่ ดวงตา 2 ข้าง ตับ ตับอ่อน ไต 2 ข้าง และหัวใจ

นายอนุทินได้พบกับครอบครัวผู้บริจาค และกล่าวด้วยความซาบซึ้งว่า “นี่คือการทำบุญครั้งใหญ่ หัวใจดวงนี้จะกลับไปเต้นใหม่ภายใน 6 ชั่วโมง” พร้อมสวมกอดพ่อแม่ของผู้บริจาคเพื่อเป็นกำลังใจ

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีเปิดเผยภายหลังว่า ภารกิจครั้งนี้เกิดจากทีมแพทย์ประสานงานเข้ามา แต่ไม่สามารถหาเที่ยวบินพาณิชย์ไปจังหวัดเลยได้ทัน ตนจึงอาสาขับเครื่องบินไปช่วยด้วยตัวเอง


ทั้งนี้ ภารกิจลักษณะนี้ไม่ใช่ครั้งแรก โดยนายอนุทินเคยปฏิบัติภารกิจ “หัวใจติดปีก” มาตั้งแต่ปลายปี 2557 รวมแล้วกว่า 80 ไฟลท์บิน ช่วยเหลือผู้ป่วยได้มากกว่า 200 ชีวิต เคยได้รับปีกกิตติมศักดิ์เฮลิคอปเตอร์การแพทย์ฉุกเฉิน (Executive HEMS Thai Sky Doctor) จากสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) และยังได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณจากสภากาชาดไทยในภารกิจนี้ด้วย

ล่าสุด เมื่อเวลา 16:00 น. นายอนุทินได้เดินทางกลับถึงสภา และเปิดเผยว่า ระหว่างปฏิบัติการบินสนับสนุนทีมแพทย์นั้น ตนยังติดตามการอภิปรายในสภาอย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่า สิ่งที่สะดุดตาใครหลายๆ คนในครั้งนี้ก็คือ เลขที่ติดอยู่หางใบพัด ซึ่งมีเลข 930 ติดอยู่ ใครอยากลองนำไปลุ้นในงวด 1 ตุลาคม 2568 ก็ลองดูได้เลยจ้า

อนุทินย้ำ ไทยพร้อมรับมือศาลโลก ข้อพิพาทตาเมือนธม–ตาควาย ยึดประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก



วันที่ 1 ตุลาคม 2568 ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แถลงถึงกรณีกัมพูชายื่นเรื่องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เกี่ยวกับกรณีข้อพิพาทบริเวณปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควาย โดยยอมรับว่ายังไม่ได้รับข้อมูลยืนยันว่าศาลโลกมีการรับเรื่องแล้วหรือไม่ แต่ย้ำชัดเจนว่าประเทศไทยมีจุดยืนที่แน่นอนและจะดำเนินการทุกอย่างโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก


นายอนุทินระบุว่า การที่กัมพูชาจะดำเนินการยื่นเรื่องต่อศาลโลก ถือเป็นสิทธิของกัมพูชา แต่ในส่วนของไทยมีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนและมีกรอบการทำงานที่ยึดมั่นมาโดยตลอด โดยไทยจะรักษาผลประโยชน์ของชาติและประชาชนเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลจะติดตามความคืบหน้าของเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด


ทั้งนี้ เมื่อถูกถามถึงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ฝั่งไทย ที่กำลังจะหมดวาระในเร็ว ๆ นี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันที่ 2 ตุลาคม จะมีการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว โดยยืนยันว่ามีรายชื่อบุคคลที่จะเข้ามารับตำแหน่งเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ต้องรอความชัดเจนจากที่ประชุมก่อน


นายอนุทินทิ้งท้ายว่า รัฐบาลพร้อมที่จะทำงานบนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศและจะใช้ทุกกลไกทางการทูตเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ โดยการแต่งตั้งประธาน JBC คนใหม่จะมีความชัดเจนหลังการประชุม สมช. ในวันที่ 2 ตุลาคม นี้