แม่แมวคลอดลูกใต้ท้องรถ “หลวงปู่จื่อ” พระเกจิ ส่องเลขทะเบียน



ฮือฮา แม่แมวคลอดลูกใต้ท้องรถ “หลวงปู่จื่อ” พระเกจิดังชัยภูมิ แห่งวัดเขาตาเงาะอุดมพร ส่องเลขทะเบียน เลขเด็ด1/12/68

กลายเป็นที่ฮือฮาในโลกออนไลน์ หลังจากที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก พนักงานขนย้าย ปัง ซึ่งเป็นคนขับรถของ พระราชภาวนาวชิรคุณ หรือ หลวงปู่จื่อ พันธมุตโต พระเกจิอาจารย์ดังแห่งภาคอีสาน ผู้ซึ่งได้รับการยกย่องเป็น “เทพเจ้าแห่งสายน้ำ” ได้เผยเหตุการณ์ที่แม่แมวมาคลอดลูกใต้ท้องรถหลวงปู่จื่อ ที่ วัดเขาตาเงาะอุดมพร อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา

โดยผู้โพสต์ระบุข้อความว่า “ความสุขของสิ่งมีชีวิตที่ปกป้องลูก ให้อยู่ในความปลอดภัย” พร้อมเผยภาพที่แมวสีขาวดำ กำลังคลอดลูกน้อย 4 ตัว อยู่ใต้ท้องรถตู้ ซึ่งเป็นรถที่หลวงปู่จื่อใช้ในการออกกิจนิมนต์

ต่อมาลูกศิษย์จึงได้ช่วยกันนำแม่แมวและลูกแมวทั้ง 4 ตัว ออกจากใต้ท้องรถอย่างปลอดภัย

ขณะที่นักเสี่ยงโชคไม่พลาดส่องเลขทะเบียนรถ “หลวงปู่จื่อ” หลังแม่แมวมาคลอดลูก เพื่อเป็นแนวทางเลขเด็ด1/12/68 ซึ่งคือเลขทะเบียน 898

กรมอุตุฯ ประกาศแล้ว 24 ชม. ข้างหน้า เปิดรายชื่อจังหวัดโดนฝนเต็มๆ



วันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้า แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงให้ระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากอากาศแห้งไว้ด้วยเนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง

สำหรับภาคใต้มีฝนน้อย เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและห่างฝั่งของทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
สภาพอากาศวันนี้ กรมอุตุฯ เตือน ฝนเพิ่มขึ้น เปิดชื่อ 38 จังหวัดโดนเต็มๆ - ข่าวสด

อนึ่ง พายุโซนร้อนกำลังแรง โคโตะ (KOTO) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามในช่วงวันที่ 1-2 ธ.ค. 68 ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามและทะเลจีนใต้ตอนบน ส่งผลให้พายุนี้จะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็วตามลำดับ โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย
ออกประกาศ 30 พฤศจิกายน 2568 พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้
ภาคเหนือ


อากาศหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.


ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ


อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 11-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 7-11 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

สภาพอากาศวันนี้ กรมอุตุฯ เปิดชื่อ 39 จังหวัด เตือน ฝนถล่มหนัก - ข่าวสด

ภาคกลาง

อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 14-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

ตอนบนของภาค : อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย ตอนล่างของภาค : มีฝน/ฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 17-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ระวังอันตราย! กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่ม 50 จังหวัด กทม.ไม่รอด ทะเลคลื่น

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่าง อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล

อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ยิ่งใจหาย สาเหตุเบื้องต้น ผู้สื่อข่าวช่องดังเสียชีวิตกะทันหัน



นับเป็นข่าวที่สร้างความสะเทือนใจให้กับวงการสื่ออย่างมาก เมื่อมีรายงานว่า“น้องนัท ณัฐวุฒิ ปงลังกา” ผู้สื่อข่าวช่อง 8 ได้จากไปกะทันหัน ทั้งที่คืนก่อนหน้าเจ้าตัวยังปรากฏตัวจัดรายการตามปกติ ทำให้เพื่อนร่วมงานและแฟนข่าวจำนวนมากช็อกกับเหตุการณ์ครั้งนี้

เพจ “ท่านเปา” เป็นผู้แจ้งข่าวแรก โดยระบุว่า “ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปของ ‘น้องนัท ณัฐวุฒิ ปงลังกา’ ผู้สื่อข่าวช่อง 8” ก่อนจะมีการยืนยันเพิ่มเติมว่า น้องนัทกลับถึงบ้านช่วงค่ำแล้วเข้านอนตามปกติ แต่เช้าวันต่อมาไม่มีใครสามารถปลุกให้ตื่นได้ ส่งผลให้หลายฝ่ายยังรอการชี้แจงอย่างเป็นทางการถึงสาเหตุที่แท้จริง เนื่องจากก่อนหน้าเจ้าตัวยังดูแข็งแรงและทำงานได้ตามปกติ

ขณะเดียวกัน จิตดี ศรีดี ผู้ประกาศข่าวชื่อดังเองก็ได้โพสต์ภาพไว้อาลัย น้องนัท หลังทราบข่าวการจากไปอีกด้วย

สำหรับประวัติของ “นัท ณัฐวุฒิ ปงลังกา” เขาเกิดเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2533 เป็นคนจังหวัดเชียงราย สูง 172 เซนติเมตร จบการศึกษาคณะบัญชี มหาวิทยาลัยศรีปทุม และมีอินสตาแกรม natdjza

ก่อนเข้าสู่วงการข่าว นัทเคยเป็นดีเจในจังหวัดเชียงราย โดยเรียนด้านบัญชีตั้งแต่ระดับ ปวช. จนถึงปริญญาตรี และยังเคยเป็นเดือนคณะช่วงมหาวิทยาลัย หลังเรียนจบ เขาค้นพบว่าตนเองชื่นชอบการทำงานด้านสื่อมวลชน จึงเริ่มเป็นนักข่าวที่สำนักข่าว INN ก่อนย้ายไปช่อง 3 ก่อนจะไปอยู่อมรินทร์ทีวี และปัจจุบันทำงานเป็นผู้สื่อข่าวช่อง 8

ด้วยสไตล์การนำเสนอที่จริงใจและเป็นเอกลักษณ์ ทำให้นัทเคยได้รับรางวัลคุณภาพแห่งปี “สังขเณศ” สาขาสื่อมวลชนดีเด่น ซึ่งยิ่งทำให้การจากไปของเขาในครั้งนี้เป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการข่าว




นักข่าวช่องดังเสียชีวิตกะทันหัน FC ใจหายเพราะเพิ่งเห็นจัดรายการ



แฟนคลับใจหาย “น้องนัท” นักข่าวช่องดังเสียชีวิตกะทันหัน FC หลายคนยังทำใจไม่ได้ เพราะเมื่อเห็นจัดรายการไปหมาดๆ

นับเป็นอีกหนึ่งข่าวช็อกแฟนข่าวอย่างมาก เมื่อมีรายงานว่าผู้สื่อข่าวช่องดังคนหนึ่งได้จากไปอย่างกะทันหัน สร้างความโศกเศร้าให้กับเพื่อนร่วมงานและผู้ติดตามข่าวจำนวนมาก หลายคนยังทำใจไม่ได้ เพราะเจ้าตัวยังปรากฏตัวในรายการเมื่อคืนก่อนหน้า แต่กลับต้องจากไปอย่างไม่คาดคิด

เพจ “ท่านเปา” ได้โพสต์แจ้งข่าวเศร้าว่า “ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปของ ‘น้องนัท – ณัฐวุฒิ ปงลังกา’ ผู้สื่อข่าวช่อง 8” ก่อนที่ต่อมาจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมยืนยันว่า “เรื่องจริงนะ น้องนัทเสียแล้ว เพิ่งได้ข่าวมา ใจสั่นเลย” โดยระบุว่าสาเหตุยังไม่แน่ชัด แต่รายงานเบื้องต้นระบุว่า ทุกคนช็อกมาก เพราะเมื่อคืนเจ้าตัวยังจัดรายการร่วมกับ ไอซ์ สารวัตร และคุณพุทธ แต่หลังกลับถึงบ้านได้พักผ่อนและหลับไป ก่อนที่จะไม่มีใครสามารถปลุกได้อีก

สำหรับประวัติของ “นัท ณัฐวุฒิ ปงลังกา” นักข่าวหน้าตาสดใส เขาเกิดเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2533 มีภูมิลำเนาที่จังหวัดเชียงราย สูง 172 เซนติเมตร จบการศึกษาคณะบัญชี มหาวิทยาลัยศรีปทุม และมีอินสตาแกรมส่วนตัวคือ natdjza

ก่อนจะก้าวสู่เส้นทางสื่อ เขาเคยทำงานเป็นดีเจในจังหวัดเชียงราย โดยศึกษาด้านบัญชีมาตั้งแต่ระดับ ปวช. จนถึงปริญญาตรี และยังเคยเป็นเดือนคณะสมัยเรียนอีกด้วย หลังเรียนจบ นัทรู้ตัวว่าหลงรักงานด้านสื่อมวลชน จึงเริ่มต้นสายอาชีพที่สถานีข่าว INN จากนั้นย้ายไปทำงานที่ช่อง 3 ก่อนมาทำข่าวกับอมรินทร์ทีวี และในปัจจุบันอยู่ที่สังกัดช่อง 8

ด้วยความสามารถในการนำเสนอข่าวอย่างเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เขาเคยได้รับรางวัลคุณภาพแห่งปี “สังขเณศ” ในฐานะบุคคลที่มีผลงานโดดเด่น และเป็นต้นแบบด้านสื่อมวลชนดีเด่นอีกด้วย ซึ่งทำให้การจากไปของเขาครั้งนี้สร้างความเสียใจอย่างยิ่งต่อผู้คนในวงการ

ข่าวด่วน!! ข่าวเศร้ายืนยันการเสียชีวิตของ… ดูเพิ่มเติม



ข่าวด่วน!! ข่าวเศร้ายืนยันการเสียชีวิตของ… ดูเพิ่มเติม

วันที่ 24 พ.ย. 2568 เมื่อเวลา 18.30 น. พ.ต.ท.อมร ใจดี รองสารวัตรสอบสวน สภ.เชียงคำ ได้รับแจ้งเหตุอุบัติเหตุจักรยายยนต์ชนท้ายบรรทุกสิบล้อ มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บริเวณถนนทางเข้าโรงสี ตำบลน้ำแวน อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา หลังรับแจ้ง จึงรีบเดินทางออกตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลเชียงคำ และกู้ภัยมูลนิธิสยามรวมใจพะเยา สำนักงานใหญ่อำเภอเชียงคำ

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ทะเบียน 1กณ 8269 พะเยา พังยับเยิน และพบร่างผู้เสียชีวิต 3 ราย ติดคาซากรถจักรยานยนต์ เป็นชายอายุ 34 ปี หญิงอายุ 34 ปี และเด็กหญิงวัยเพียง 7 ขวบ ใกล้กันพบรถบรรทุก 6 ล้อบรรทุกข้าวเปลือกของนายวิจิตร ชาวบ้านตำบลอ่างทอง อำเภอเชียงคำ




“คุณหญิงแอร์” เผยภาพจูบสุดท้าย ก่อนหม่อมเจ้าจุลเจิม บิดาสิ้นชีพิตักษัย



“คุณหญิงแอร์” ธิดาหม่อมเจ้าจุลเจิม เผยภาพจูบสุดท้าย ก่อนบิดาสิ้นชีพิตักษัยอย่างสงบ ณ บ้านพัก จังหวัดเชียงใหม่

ภายหลังเพจเฟซบุ๊ก “จุลเจิม ยุคล” โพสต์แจ้งข่าวเศร้า พลตรี หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล สิ้นชีพิตักษัยอย่างสงบ ณ บ้านพักในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเวลา 08.13 น. วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 สิริชันษา 78 ปี สร้างความอาลัยแก่ผู้ที่เคารพรักเป็นอย่างยิ่ง

หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล เป็นพระโอรสในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ และเป็นที่รู้จักในนาม “ท่านชายใหม่” ผู้มีบทบาทโดดเด่นทั้งด้านสังคม การเมือง และการแสดงความคิดเห็นต่อสาธารณะมาอย่างต่อเนื่อง

ต่อมา “คุณหญิงแอร์” ม.ร.ว.จันทรลัดดา ยุคล ธิดาหม่อมเจ้าจุลเจิม ได้โพสต์ภาพขณะเข้าเยี่ยมในวาระสุดท้าย พร้อมข้อความสะเทือนใจว่า “คิดถึง… last kiss… goodbye daddy… 27.11.68” โดยมีเพื่อนสนิทและผู้ใกล้ชิดร่วมแสดงความไว้อาลัยต่อครอบครัวยุคลเป็นจำนวนมาก

สำหรับชีวิตครอบครัว หม่อมเจ้าจุลเจิม สมรสครั้งแรกกับหม่อมศิริพร ยุคล ณ อยุธยา (เสนาลักษณ์) ซึ่งถึงแก่กรรมด้วยโรคมะเร็งเมื่อปี พ.ศ. 2532 มีโอรส–ธิดา 2 คน คือ

หม่อมราชวงศ์รังษิพันธ์ ยุคล (คุณชายเหมา)

หม่อมราชวงศ์จันทรลัดดา ยุคล (คุณหญิงแอร์)

ต่อมาเสกสมรสกับหม่อมอัญชลี ยุคล ณ อยุธยา (ขัติยสุรินทร์) ในปี พ.ศ. 2533 และมีธิดาอีก 2 คน คือ

หม่อมราชวงศ์แม้นนฤมาส ยุคล (คุณหญิงแม้น)

หม่อมราชวงศ์จันทรนิภา ยุคล (คุณหญิงไหม)



“บุ๋ม ปนัดดา” ตัดสินใจเผยสิ่งที่ “เจนี่” บอกกับตน แบบตรง ๆ แล้ว



“บุ๋ม ปนัดดา” ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ระบุ

วันนี้เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ โทรหาบุ๋ม น้ำเสียงเธอค่อนข้างเศร้า น้องบอกทางใต้เป็นอย่างไรบ้างพี่ เจนอยากช่วย

แต่เจนไม่ได้มีเงินเยอะ ก็อย่างที่เห็นว่าเงินเก็บที่เอาไว้ให้ลูก ถูกเพื่อนคนนั้นเอาไปหมดแล้ว เจนเลยไลฟ์สดขายของ อยากร่วมทำบุญ 100,000 บาท ส่งแรงใจไปให้ทางใต้ บุ๋มขอบคุณเจนนี่มากนะคะ

ลำบากอยู่แต่ก็ยังนึกถึงกัน อยากให้โลกใจดีกับเธอมากกว่านี้ และขอให้ผลบุญนี้ทำให้เจนนี่ได้รับความเป็นธรรมด้วยค่ะ




ช็อกทั้งประเทศ!👇 เสี่ยโอร้องไห้ไม่หยุด องค์ภาสิ้นอย่างมีเงื่อนงำ…



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศศาลปกครอง เรื่อง คำพิพากษาถึงที่สุดให้เพิกถอนกฎ ลงนามโดย นายสรรค์พงศ์ ฐิติกรทับทอง ตุลาการศาลปกครองประกาศฉบับดังกล่าว ระบุว่า ด้วยศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ อ50/2568 ระหว่าง นางสุภา โชติงาม หรือ จอมพันธ์ ผู้ฟ้องคดี กับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 1 กับพวก รวม 2 คน ผู้ถูกฟ้องคดี

ให้เพิกถอนประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง กำหนดแบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจร พ.ศ.2563 ลงวันที่ 20 ก.ค.2563 และประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง การกำหนดจำนวนค่าปรับตามที่เปรียบเทียบสำหรับความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522

และความผิดตามกฎหมายอื่นอันเกี่ยวกับรถหรือการใช้ทางที่มีโทษปรับสถานเดียว พ.ศ.2566 ลงวันที่ 23 มี.ค.2566 โดยให้มีผลนับแต่วันที่พ้นกำหนด 180 วัน นับแต่วันที่ศาลปกครองสุดมีคำพิพากษา จึงประกาศให้ทราบทั่วกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีดังกล่าว เป็นคดีที่ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้เพิกถอนประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องกำหนดแบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจร พ.ศ.2563 ลงวันที่ 20 ก.ค.2563

และประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องกำหนดจำนวนค่าปรับตามที่เปรียบเทียบสำหรับความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 และความผิดตามกฎหมายอื่นอันเกี่ยวกับรถหรือการใช้ทางที่มีโทษปรับสถานเดียว พ.ศ.2566 ลงวันที่ 23 มี.ค.2566

โดยศาลชี้ว่า การกำหนดแบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจรและการกำหนดจำนวนค่าปรับดังกล่าว ขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมายจราจรทางบก และศาลให้เวลาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 180 วัน ในการแก้ไขปรับปรุงประกาศ ก่อนที่คำพิพากษาจะมีผลบังคับใช้

เป็นเหตุการณ์ที่สร้างความตกตะลึงไปทั่วประเทศ เมื่อข่าวการเสียชีวิตของ “องค์ภา” บุคคลสำคัญที่ได้รับความเคารพจากสังคม ได้กลายเป็นกระแสที่พูดถึงอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะเมื่อปรากฏว่า การจากไปของท่านมีเงื่อนงำที่ยังไม่มีคำตอบชัดเจน

“เสี่ยโอ” นักธุรกิจชื่อดังและบุคคลใกล้ชิดขององค์ภา ได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งในพิธีไว้อาลัยที่จัดขึ้นเป็นการส่วนตัว ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้าและเต็มไปด้วยคำถาม เสี่ยโอยืนร่ำไห้อย่างไม่อายสายตาใคร กล่าวสั้นๆ เพียงว่า “ผมยังรับไม่ได้ มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลย…”

รายงานเบื้องต้นจากเจ้าหน้าที่ระบุว่า การเสียชีวิตเกิดขึ้นในที่พักส่วนตัว โดยไม่มีสัญญาณของการต่อสู้หรือบุคคลแปลกหน้า แต่สิ่งที่น่าสงสัยคือสภาพแวดล้อมที่ดูผิดปกติ และวัตถุบางอย่างที่หายไปจากห้อง ท่ามกลางกระแสคาดเดาต่างๆ ที่ผุดขึ้นบนโลกออนไลน์ หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องนี้อาจไม่ใช่เพียงแค่อุบัติเหตุหรือโรคประจำตัว

ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานและสอบสวนผู้เกี่ยวข้องอย่างละเอียด พร้อมเตรียมส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช เพื่อตรวจหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างแน่ชัด

เอาแล้ว ต๊อด ปิติ ไม่เฉย หลังชาวหาดใหญ่บุกคลังขโมยเบียร์



วันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 จากกรณีเพจ Army Military Force โพสต์คลิประบุว่าเป็นเหตุการณ์ชาวหาดใหญ่หลายคนบุกเข้าไปขโมยเบียร์ในคลังเบียร์ของบริษัทบุญรอดในช่วงนํ้ากำลังลด ซึ่งในคลิปเผยให้เห็นชาวบ้านที่กำลังเข้าไปขนเบียร์ออกมาหลายถาด ทั้งเอารถกระบะมาขน รถจักรยานยนต์ แม้กระทั่งมามือเปล่ามาแบกลังวิ่งออกไป

ทางเพจโพสต์คลิปพร้อมข้อความว่า “หาดใหญ่ไม่แผ่ว!! 28 พ.ย. – ล่าสุดมีรายงานว่า ชาวหาดใหญ่หลายสิบคน บุกเข้าไปในคลังเบียร์ของบริษัทบุญรอดในช่วงนํ้ากำลังลด เพื่อปล้นสะดมเบียร์ยี่ห้อสิงห์และลีโอ โดยไม่เกรงกลัวกฎหมายอย่างใด ”

ล่าสุดบนเฟซบุ๊กของ ต๊อด ปิติ ภิรมย์ภักดี ทายาทตระกูลภิรมย์ภักดี โพสต์แล้วหลังว่อนคลิปชาวบ้านหาดใหญ่ บุกในคลังเบียร์ของบริษัทบุญรอดในช่วงนํ้ากำลังลดแล้วขโมยเบียร์ออกไปจำนวนมาก

แม้จะเป็นโพสต์สั้นๆ แต่งานนี้รู้เลยว่ามีคนงานเข้า ซึ่ง ต๊อด ปิติ ภิรมย์ภักดี ได้โพสต์ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า

“หน้าที่ของสิงห์อาสาคือช่วยเหลือ ส่วนอื่นก็ว่ากันตามกฎหมายครับ”

สุดสลด เก๋งเสียหลักพุ่งชนรถตู้รับส่งนักเรียน จนมีนักเรียนเสียชีวิต



เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 31 ต.ค.2568 เกิดอุบัติเหตุบนถนนหมายเลข 201 ชุมแพ-เลย กิโลเมตรที่ 252 พื้นที่ต.นาหนองทุ่ม อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ที่เกิดเหตุพบรถตู้โดยสารรับส่งนักเรียน ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน กาฬสินธุ์ สภาพพลิกตกลงข้างทาง

โดยมีผู้โดยสารเป็นนักเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่ง จากการตรวจสอบมีนักเรียนชายและหญิงได้รับบาดเจ็บ 3 คน และมีนักเรียนถูกรถตู้ทับร่าง 1 คน ทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อคือ นาย จ. (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี ใกล้กันพบรถยนต์ ยี่ห้อนิสสัน ทะเบียน ขอนแก่น สภาพเสียหลักอยู่ข้างทาง

จากการสอบถาม นาย จ. (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี คนขับรถตู้ ให้การว่า ตนได้ขับรถโดยสารนักเรียนจำนวน 14 คน เพื่อจะไปส่งที่อ.ชุมแพ ถึงที่เกิดเหตุขณะที่รถกำลังมุ่งหน้าอ.ชุมแพ รถเก๋งคู่กรณีขับสวนทางมา และได้ขับข้ามเลนเข้ามาเฉี่ยวชนจนทำให้รถตู้เสียหลักพลิกลงข้างทาง มีนักเรียน 1 คนถูกรถทับ และนักเรียนบาดเจ็บบางส่วน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลภูกระดึง อ.ภูกระดึง จ.เลย

เบื้องต้นนำส่ง 3 คน และมีนักเรียนบางส่วนที่ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ขณะนี้ผู้ปกครองได้นำไปดูแลแล้ว ส่วนผู้ขับขี่รถเก๋งบาดเจ็บเล็กน้อย จะได้นำตัวส่งโรงพยาบาลชุมแพเพื่อรักษา จึงตรวจที่เกิดเหตุบันทึกถ่ายภาพรวบรวมพยานหลักฐานที่เกิดเหตุ พนักงานสอบสวนจะได้ดำเนินการต่อไป

พ.ต.อ.ธนาวัชร ดีบุญมี ณ ชุมแพ รองผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า หลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อสั่งการให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุอย่างรอบด้าน ให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

พร้อมกันนี้ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายปกครอง โรงพยาบาล และหน่วยกู้ภัย ให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่